การดูแลสุขภาพช่องปากและฟันอาจเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนละเลย เพราะนอกจากจะไปตรวจสุขภาพประจำปีแล้ว การดูแลสุขภาพของช่องปากในทุก ๆ วัน อย่างเป็นกิจวัตร ตลอดจนสร้างนิสัยการกิน การดื่ม ที่ดี ก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งด้วย ซึ่งการมี “สุขภาพปากและฟันที่ดี” อาจเป็นนิยามของการมีสัญลักษณ์อยู่ 3 อย่างดังนี้

1. ฟันที่ดูสะอาดไม่มีเศษอาหารติดอยู่

2. เหงือกสีชมพู ไม่เป็นแผล เกิดอาการปวด หรือมีเลือดออกเวลาแปรงฟัน

3. มีกลิ่นปากบ้างเมื่อตื่นนอน แต่ระหว่างวันต้องไม่เหม็นจนน่าตกใจ

4. ไม่มีอาการเสียวฟัน เจ็บจี้ด หรือฟันผุ

ถ้าเหงือกมีอาการเจ็บหรือเลือดออกเวลาแปรงฟัน หรือมีปัญหาเรื่องกลิ่นปากตลอดเวลา ฟันมีลักษณะทางกายภาพเปลี่ยนไป เช่น ฟันผุ ปวดฟัน หรือฟันมีคราบหินปูน ก็ควรพบทันตแพทย์ เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของปัญหาในช่องปาก รวมถึงส่ออาการถึงโรคทางเดินอาหารได้ด้วย การไปพบทันตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ ที่สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับเทคนิคเพื่อสุขภาพปากและฟันที่ดี ตลอดจนแนะนำบริเวณที่ต้องดูแลเป็นพิเศษระหว่างการแปรงฟันหรือขัดฟัน ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของแนวทางการบำรุงรักษาช่องปากที่ดี

นอกจากการแปรงฟัน พบทันตแพทย์แล้ว การทำ Oil pulling ก็เป็นอีกกระบวนการหนึ่งที่่วยดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟัน รวมถึงเป็นตัวช่วยในการดูแลระบบทางเดินอาหารของเราด้วย เพราะการฆ่าเชื้อแบคทีเรียด้วยน้ำมันจากการทำ Oil pulling จะเป็นการขจัดแบคทีเรียในช่องปาก ที่การแปรงฟันเพียงอย่างเดียวอาจจะขจัดแบคทีเรียเหลบ่านี้ไม่หมดก็ได้

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก https://www.colgate.com/th-th